เมื่อเทียบอัตราส่วนแบบ 1:1 แล้ว Bitcoin หรือ BTC จะมีมูลค่าสูงกว่าเงินทุกสกุลเงินในโลก มันมีอะไรที่แตกต่างไปจากเงิน ?
Bitcoin บางคนมองว่าเป็นเงินดิจิตอล บ้างก็มองว่าเป็นทองคำดิจิตอล เพราะมีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ แตกต่างจาก “เงิน” ผลิตออกมาเรื่อยๆแบบไม่มีที่สิ้นสุด จึงเป็นที่มาของการสร้างเหรียญ Bitcoin
วิเคราะห์ข้อแตกต่าง 7 ข้อที่ทำให้ Bitcoin ต่างจากเงิน
- มีกระจายอำนาจ : Bitcoin ทำงานบนเครือข่ายกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่าไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลหรือสถาบันการเงินใดๆ ธุรกรรมได้รับการตรวจสอบโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์แทนที่จะเป็นหน่วยงานส่วนกลาง
- ดิจิทัล : Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิตอลและโอนทางอิเล็กทรอนิกส์
- อุปทานจำกัด : อุปทานทั้งหมดของ Bitcoin จำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ นี่คือแตกต่างจากสกุลเงิน fiat ซึ่งสามารถพิมพ์หรือสร้างโดยธนาคารกลางได้ตามต้องการ
- ไม่ระบุชื่อ : ธุรกรรม Bitcoin จะถูกบันทึกในบัญชีแยกประเภทสาธารณะ แต่ไม่มีการเปิดเผยตัวตนของบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง สิ่งนี้ทำให้ระดับของการไม่เปิดเผยตัวตนในการทำธุรกรรม
- ไร้พรมแดน : Bitcoin ไม่ถูกจำกัดโดยพรมแดนทางภูมิศาสตร์ ช่วยให้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ง่ายและรวดเร็ว
- การทำธุรกรรมที่รวดเร็วและถูกกว่า: การทำธุรกรรมด้วย Bitcoin นั้นดำเนินการได้เร็วกว่าและถูกกว่าการโอนเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิมและธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ
- ความผันผวน : Bitcoin มีความผันผวนสูง หมายความว่ามูลค่าของมันสามารถผันผวนได้อย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ สิ่งนี้สามารถสร้างโอกาสในการเก็งกำไร แต่ยังรวมถึงการขาดทุนจำนวนมาก
โดยรวมแล้ว Bitcoin เป็นสกุลเงินประเภทอื่น ซึ่งทำงานบนเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ มีอุปทานจำกัด และอนุญาตให้ทำธุรกรรมแบบไร้พรมแดนและไร้ตัวตน แต่ยังมีความผันผวนและมีความเสี่ยงมากกว่า
ส่วนตัวได้ลงทุน Bitcoin ไว้จำนวนหนึ่ง แต่เป็นในลักษณะของการสะสมเหรียญ ไม่ได้เน้นเกร็งกำไร เพราะเป็นเหรียญที่มีความผันผวนสูง
แต่ถ้าถามว่าสะสมแล้วได้อะไร ส่วนตัวเชื่อว่ามันเป็นเหรียญแห่งอนาคต ปัจจุบันเรายังต้องใช้เงินซื้อข้าวของ จ่ายตลาดกันอยู่ อนาคต Bitcoin อาจจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ใช้จ่ายตลาดได้